เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ อ.เมือง จ.นครราชสีมา #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา พร้อมด้วย พ.ต.ท.หญิง พิชชาภา บุญโสดา ผช.ท่องเที่ยวและกีฬา จ.นครราชสีมา นายจำเริญ เปล้ากระโทก นายกสมาคม อบต.จ.นครราชสีมา และ นายองอาจ พฤกษ์พนาเวศ ผอ.สวาทแคทอะคาเดมี่ ร่วมกันแถลงข่าวจัดการแข่งขันฟุตบอลประชาชน “อบจ.โคราช คัพ” ครั้งที่ 1 “KORAT PAO CUP 1st 2023” ชิงเงินรางวัลกว่า 1.3 ล้านบาท โดยมีผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และสื่อมวลชน รับฟังการแถลงข่าว
นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “อบจ.โคราช คัพ” เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนโดยเฉพาะนักกีฬาฟุตบอล ได้โชว์สกิลและทักษะในสนามแข่งขันอย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งนอกจากจะส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแข่งขันกีฬาฟุตบอล ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ห่างไกลจากยาเสพติด เกิดความรักและสนใจหันมาเล่นกีฬามากขึ้นแล้ว ยังเป็นการประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชนในท้องถิ่น ที่จะร่วมกันพัฒนา สร้างต้นแบบทิศทางการจัดแข่งขันฟุตบอลภายในจังหวัดโดยเฉพาะสามพี่น้องท้องถิ่น “อบจ.” “เทศบาล” “อบต.” ซึ่งใน จ.นครราชสีมา มีเทศบาล และ อบต. จำนวน 333 แห่ง และ อบจ.ได้กำหนดให้ 1 ท้องถิ่น 1 ทีม ส่งเข้าร่วมการแข่งขันในระดับอำเภอ ระหว่างวันที่ เพื่อเป็นทีมตัวแทนทั้ง 32 อำเภอ เข้ามาทำการแข่งขันในระดับจังหวัด ที่จะจัดแข่งขันในช่วงการจัดงานวันฉลองชัยชนะของท้าวสุรนารี 23 มีนาคม ถึง 3 เมษายน 2566 และ แมตช์ชิงชนะเลิศจะมีขึ้นในวันที่ 3 เมษายน 2566 ณ สนามกีฬาค่ายสุรนารี โดยคาดหวังจะให้วงการฟุตบอลจังหวัดนครราชสีมา สามารถพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ เพื่อก้าวไปสู่วงการลูกหนังอาชีพ ซึ่ง ทาง อบจ.นครราชสีมา พร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อสนองแนวทาง “โคราชเมืองกีฬา” ต่อไป สำหรับการแข่งขันฟุตบอล ประชาชน อบจ.โคราช คัพ ครั้งที่ 1 “KORAT PAO CUP 1st 2023” นับเป็นครั้งแรกที่ อบจ.ได้จัดขึ้น เพื่อต้องการที่จะส่งเสริมด้านกีฬาให้กับประชาชน ที่สำคัญคือการเฟ้นหาช้างเผือกที่จะฉายแววเพื่อต่อยอดไปสู่นักเตะระดับจังหวัดและเข้าสู่วงการนักเตะอาชีพระดับประเทศที่เป็น “เลือดโคราช” อย่างแท้จริง
สำหรับครั้งนี้ คาดว่าจะมีทีมเข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 333 ทีม เฟสแรกแข่งขันในระดับอำเภอเพื่อเป็นตัวแทนจาก 32 อำเภอ จำนวน 32 ทีม เข้าทำการแข่งขันเฟสสองในระดับจังหวัด “อบจ.โคราช คัพ” ครั้งที่ 1 เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 24 ธ.ค.65 – 6 ม.ค. 66 ณ สนง.ศูนย์ประสาน อบจ.ประจำอำเภอ หรือที่เจ้าหน้าที่พลศึกษาประจำอำเภอ จากนั้นจะดำเนินการจับฉลากแบ่งสายการแข่งขันในแต่ละอำเภอ เริ่มการแข่งขันในวันที่ 21 ม.ค. ไปจนถึงวันที่ 28 ม.ค. 2565 พร้อมกัน 32 สนาม 32 อำเภอ และจะมีการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในช่วงการจัดงานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารี ระหว่างวันที่ 23 มี.ค. – 3 เม.ย. 66 โดยมีเงินรางวัลการรันตีกว่า 1.3 ล้านบาท